รู้จักสหคลินิก คลินิกที่ให้คุณมากกว่าการรักษาแค่ด้านเดียว
- Decco develop
- 15 ต.ค. 2567
- ยาว 2 นาที
อัปเดตเมื่อ 11 มี.ค.
ในยุคที่ความต้องการด้านสุขภาพของผู้คนเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การดูแลสุขภาพที่ครบวงจร รวดเร็ว และสะดวกสบายกลายเป็นสิ่งสำคัญ สหคลินิก (Multi-specialty Clinic) จึงเป็นคำตอบที่ตอบโจทย์ผู้ป่วย ด้วยบริการทางการแพทย์หลากหลายในสถานที่เดียว บทความนี้จะพาคุณทำความรู้จักสหคลินิกในทุกมิติ ตั้งแต่จุดเด่น ข้อดี ข้อเสีย ไปจนถึงแนวทางการขออนุญาตเปิดคลินิก
สหคลินิกคืออะไร
สหคลินิก คือ คลินิกที่จัดให้มีการประกอบวิชาชีพเวชกรรม ทันตกรรม การพยาบาล การผดุงครรภ์ กายภาพบําบัด เทคนิคการแพทย์ การแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนไทยประยุกต์ และการประกอบโรคศิลปะ ตั้งแต่สองลักษณะขึ้นไป ซึ่งดําเนินการโดยผู้ประกอบวิชาชีพหรือผู้ประกอบ โรคศิลปะสาขาใดสาขาหนึ่ง โดยผู้ดําเนินการต้องเป็นบุคคลที่ผู้อนุญาตประกาศกําหนดโดยคําแนะนํา ของคณะกรรมการสถานพยาบาล
สหคลินิกมีลักษณะสำคัญคือ:
เป็นคลินิกที่มีการประกอบวิชาชีพตั้งแต่ 2 ลักษณะขึ้นไป ครอบคลุมทั้ง:
เวชกรรม (แพทย์)
ทันตกรรม (ทันตแพทย์)
การพยาบาลและการผดุงครรภ์
กายภาพบำบัด
เทคนิคการแพทย์
การแพทย์แผนไทยและแผนไทยประยุกต์
การประกอบโรคศิลปะในสาขาอื่นๆ
ดำเนินการโดยผู้ประกอบวิชาชีพหรือผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาใดสาขาหนึ่ง
ผู้ดำเนินการต้องเป็นบุคคลที่ได้รับการประกาศกำหนดโดยผู้อนุญาต (ซึ่งปกติคือกระทรวงสาธารณสุข) ตามคำแนะนำของคณะกรรมการสถานพยาบาล
สหคลินิกจึงเป็นรูปแบบสถานพยาบาลที่ถูกออกแบบให้สามารถให้บริการทางการแพทย์ที่หลากหลายในสถานที่เดียวกัน ภายใต้การกำกับดูแลตามมาตรฐานทางกฎหมาย

ข้อดีของการทำสหคลินิก
การรักษาแบบครบวงจร
ผู้ป่วยสามารถเข้ารับการรักษาได้จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขาในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็น อายุรกรรม , กุมารเวชกรรม , ศัลยกรรม , สูตินรีเวช หรือกายภาพบำบัด ช่วยให้วินิจฉัยและรักษาได้ตรงจุดมากขึ้น โดยเฉพาะ ในเคสที่ซับซ้อน
ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางของผู้ป่วย
ลดภาระการเดินทางไปหลายสถานพยาบาล ไม่ต้องเดินทางไปหลายคลินิกหรือโรงพยาบาล สามารถทำการนัดหมายหลายแผนกในที่ครั้งเดียวได้
ประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากร
สามารถใช้พื้นที่ เครื่องมือ และบุคลากรร่วมกัน ช่วยลดต้นทุนในการดำเนินงาน
โอกาสทางธุรกิจ
สามารถขยายฐานลูกค้าและสร้างรายได้เพิ่มขึ้นจากการให้บริการที่หลากหลาย
การแบ่งปันข้อมูลผู้ป่วย
ระบบบันทึกข้อมูลผู้ป่วยสามารถใช้ร่วมกันระหว่างแผนก ช่วยให้การดูแลรักษามีความต่อเนื่อง
ความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ที่ดี
สหคลินิกที่มีบุคลากรหลายสาขาวิชาชีพมักได้รับความเชื่อถือจากผู้รับบริการ
การเรียนรู้และพัฒนาร่วมกันของบุคลากร
เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างผู้ประกอบวิชาชีพต่างสาขา
ลดความซ้ำซ้อนในการตรวจวินิจฉัย
การส่งต่อข้อมูลระหว่างแผนกทำได้สะดวก ลดการตรวจซ้ำ
การวินิจฉัยและรักษาแบบองค์รวม
แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์หลายสาขาสามารถปรึกษาหารือและวางแผนการรักษาร่วมกัน
ตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยได้ดีขึ้น
ผู้ป่วยได้รับความสะดวกและความพึงพอใจในการรับบริการแบบครบวงจร

ข้อเสียและความท้าทายของการทำสหคลินิก
ต้นทุนเริ่มต้นสูง
การจัดตั้งสหคลินิกต้องลงทุนในอุปกรณ์การแพทย์หลากหลายประเภท พื้นที่ใหญ่ขึ้น และเครื่องมือเฉพาะทางหลายชนิด
ความซับซ้อนในการบริหารจัดการ
ต้องประสานงานระหว่างบุคลากรหลายสาขาวิชาชีพ ระบบการนัดหมาย และการบริหารกำลังคน
ความเสี่ยงความขัดแย้งระหว่างวิชาชีพ
แพทย์แต่ละสาขาอาจมีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับแนวทางการรักษา หากไม่มีการประสานงานที่ดี อาจเกิดความขัดแย้งภายในทีมได้
ข้อจำกัดทางกฎหมาย
ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของวิชาชีพหลายสาขา และมาตรฐานการรักษาที่แตกต่างกัน
ความท้าทายในการรักษาคุณภาพบริการที่สม่ำเสมอ
หากไม่มีการกำหนดมาตรฐานที่ชัดเจน คุณภาพของการรักษาอาจไม่สม่ำเสมอ และส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ป่วย
การขาดแคลนบุคลากร
อาจยากในการหาผู้ประกอบวิชาชีพครบทุกสาขาที่ต้องการ โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสูง
ค่าเช่าสถานที่ขนาดใหญ่ ค่าสาธารณูปโภค เงินเดือนบุคลากรหลายตำแหน่ง
ความเสี่ยงทางธุรกิจสูงขึ้น
หากประสบปัญหาทางการเงิน จะส่งผลกระทบต่อการให้บริการหลายด้าน
ความยุ่งยากในการบูรณาการระบบข้อมูล
การเชื่อมโยงระบบข้อมูลผู้ป่วยระหว่างแผนกต่างๆ อาจซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูง
การแข่งขันกับโรงพยาบาลและคลินิกเฉพาะทาง
ต้องสร้างจุดเด่นเพื่อดึงดูดผู้ป่วยจากสถานพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
ขั้นตอนการขออนุญาตเปิดสหคลินิก: แนวทางเพื่อการดำเนินธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย

การเปิดสหคลินิกเป็นการให้บริการทางการแพทย์ที่ต้องดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมายที่เข้มงวด เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของผู้รับบริการ ผู้ที่ต้องการเปิดสหคลินิกจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการขออนุญาตให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 และกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
1. การเตรียมความพร้อมก่อนยื่นขออนุญาต
1.1 คุณสมบัติของผู้ประกอบกิจการและผู้ดำเนินการ
ผู้ประกอบกิจการ: อาจเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลก็ได้ ต้องมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ไม่เคยต้องโทษคดีเกี่ยวกับยาเสพติด ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย ไม่เป็นโรคตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด
ผู้ดำเนินการ: ต้องเป็นผู้ประกอบวิชาชีพในสาขาใดสาขาหนึ่งที่ให้บริการในสหคลินิก มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพที่ยังไม่หมดอายุ ต้องไม่เป็นผู้ดำเนินการสถานพยาบาลอื่นอยู่แล้ว และต้องปฏิบัติงานในสหคลินิกไม่น้อยกว่าเวลาที่กำหนด
1.2 การเตรียมสถานที่
สถานที่ต้องมีพื้นที่ใช้สอยเหมาะสมกับลักษณะการให้บริการ
ต้องมีห้องตรวจโรคแยกเป็นสัดส่วน
ระบบการควบคุมการติดเชื้อและการกำจัดขยะติดเชื้อที่ได้มาตรฐาน
มีเครื่องมือ อุปกรณ์ทางการแพทย์ตามมาตรฐานวิชาชีพแต่ละสาขา
ป้ายชื่อสถานพยาบาลต้องมีลักษณะตามที่กฎหมายกำหนด
1.3 การเตรียมบุคลากร
จัดเตรียมผู้ประกอบวิชาชีพให้ครบทุกสาขาที่จะให้บริการ
ผู้ประกอบวิชาชีพทุกคนต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพที่ยังไม่หมดอายุ
ต้องระบุวันและเวลาปฏิบัติงานของผู้ประกอบวิชาชีพแต่ละคนอย่างชัดเจน
2. ขั้นตอนการขออนุญาต
2.1 การยื่นขออนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล
ดาวน์โหลดแบบคำขออนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล (แบบ ส.พ.1) จากเว็บไซต์กองสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือขอรับที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด
กรอกแบบคำขอพร้อมแนบเอกสารประกอบ:
สำเนาบัตรประชาชนของผู้ขออนุญาต
สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ขออนุญาต
สำเนาใบประกอบวิชาชีพของผู้ดำเนินการ
แผนที่แสดงที่ตั้งของสถานพยาบาล
แผนผังภายในสถานพยาบาล
สำเนาเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ในสถานที่ (โฉนดที่ดิน/สัญญาเช่า)
กรณีเป็นนิติบุคคล ให้แนบหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล
ยื่นแบบคำขอและเอกสารที่:
กรุงเทพมหานคร: กองสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ต่างจังหวัด: สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด
2.2 การยื่นขออนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาล
กรอกแบบคำขออนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาล (แบบ ส.พ.18)
แนบเอกสารประกอบ:
สำเนาบัตรประชาชนของผู้ดำเนินการ
สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ดำเนินการ
สำเนาใบประกอบวิชาชีพ
รูปถ่าย 2.5 x 3 ซม. จำนวน 3 รูป (ถ่ายไม่เกิน 1 ปี)
ใบรับรองแพทย์
หลักฐานแสดงวุฒิการศึกษา
ยื่นแบบคำขอพร้อมกับการยื่นขออนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล
2.3 การตรวจสอบสถานที่
เจ้าหน้าที่จะนัดหมายเพื่อตรวจสอบสถานที่ตามที่ระบุในคำขอ
คณะกรรมการตรวจมาตรฐานสถานพยาบาลจะตรวจสอบความพร้อมของสถานที่ เครื่องมือ และบุคลากร
หากไม่ผ่านการตรวจสอบ ต้องปรับปรุงแก้ไขตามคำแนะนำของคณะกรรมการ และนัดตรวจซ้ำ
2.4 การชำระค่าธรรมเนียม
เมื่อผ่านการตรวจสอบแล้ว ต้องชำระค่าธรรมเนียมการประกอบกิจการสถานพยาบาลและค่าธรรมเนียมการดำเนินการสถานพยาบาล
อัตราค่าธรรมเนียมเป็นไปตามที่กฎกระทรวงกำหนด ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
2.5 การรับใบอนุญาต
ใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล (แบบ ส.พ.7)
ใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาล (แบบ ส.พ.19)
สมุดทะเบียนสถานพยาบาล
ใบอนุญาตมีอายุ 10 ปี และต้องต่ออายุก่อนใบอนุญาตหมดอายุ
ดูขั้นตอนการขออนุญาตเปิดคลินิกเพิ่มเติมได้ที่นี่
3. การดำเนินการหลังได้รับใบอนุญาต
3.1 การขออนุญาตเปิดให้บริการ
แสดงใบอนุญาตประกอบกิจการและใบอนุญาตให้ดำเนินการในที่เปิดเผยและเห็นได้ชัดเจน
จัดทำป้ายชื่อสถานพยาบาลตามที่กฎหมายกำหนด
จัดทำและแสดงอัตราค่าบริการทางการแพทย์ในที่เปิดเผย
จัดทำป้ายแสดงเวลาเปิด-ปิดการให้บริการ และป้ายแสดงชื่อผู้ประกอบวิชาชีพพร้อมเวลาปฏิบัติงาน
3.2 การปฏิบัติตามกฎหมายอย่างต่อเนื่อง
หากมีการเปลี่ยนแปลงผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องแจ้งให้ผู้อนุญาตทราบภายใน 30 วัน
หากมีการเปลี่ยนแปลงรายการในใบอนุญาต เช่น ชื่อสถานพยาบาล ที่ตั้ง ผู้ดำเนินการ ต้องยื่นขอเปลี่ยนแปลง
จัดทำรายงานประจำปีเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลและส่งให้ผู้อนุญาตภายในเดือนธันวาคมของทุกปี
จัดเก็บเวชระเบียนผู้ป่วยไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปี
3.3 การต่ออายุใบอนุญาต
ยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตก่อนใบอนุญาตสิ้นอายุไม่น้อยกว่า 90 วัน
แนบเอกสารประกอบการต่ออายุตามที่กำหนด
ชำระค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาต
4. กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
กฎกระทรวงกำหนดชื่อสถานพยาบาล และการแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับชื่อสถานพยาบาล ผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล อัตราค่ารักษาพยาบาล ค่าบริการและสิทธิของผู้ป่วย พ.ศ. 2562
กฎกระทรวงกำหนดวิชาชีพและจำนวนผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล พ.ศ. 2558
กฎกระทรวงกำหนดลักษณะของสถานพยาบาลและลักษณะการให้บริการของสถานพยาบาล พ.ศ. 2558
5. ข้อควรระวังและข้อแนะนำ
การให้บริการนอกขอบเขตใบอนุญาต: ต้องให้บริการเฉพาะในสาขาที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น การให้บริการนอกขอบเขตมีโทษทั้งทางแพ่งและอาญา
การโฆษณา: การโฆษณาสถานพยาบาลต้องได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาต และต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
การเปลี่ยนแปลงผู้ดำเนินการ: หากผู้ดำเนินการไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เกิน 7 วัน ต้องแจ้งและมอบหมายให้ผู้ประกอบวิชาชีพอื่นในสถานพยาบาลเป็นผู้ดำเนินการแทน
การเลิกกิจการ: หากต้องการเลิกกิจการ ต้องแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้อนุญาตทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 15 วัน และต้องจัดการเวชระเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย
6. บทลงโทษ
การดำเนินการโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล มีบทลงโทษทั้งทางแพ่งและอาญา เช่น:
ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท
ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 60,000 บาท
โฆษณาสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท
การดำเนินการสหคลินิกอย่างถูกต้องตามกฎหมายไม่เพียงช่วยให้ธุรกิจดำเนินไปอย่างราบรื่นเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้รับบริการและสังคมโดยรวม การปฏิบัติตามขั้นตอนและกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดจะช่วยให้สหคลินิกของท่านเป็นสถานพยาบาลที่มีคุณภาพและมาตรฐาน สามารถให้บริการแก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
การขออนุญาตเปิดสหคลินิก vs. คลินิกทั่วไป: ความเหมือนและความแตกต่าง

แม้การเปิด สหคลินิก (Multi-specialty Clinic) และ คลินิกทั่วไป จะมีขั้นตอนการขออนุญาตที่คล้ายคลึงกันในบางด้าน เนื่องจากทั้งสองประเภทต้องปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับสถานพยาบาล แต่ยังมีความแตกต่างที่สำคัญในแง่ของเอกสาร ข้อกำหนด และกระบวนการตรวจสอบ สรุปความเหมือนและความแตกต่างได้ดังนี้:
ความเหมือนในการขออนุญาต
ข้อกำหนดทางกฎหมายทั้งสหคลินิกและคลินิกทั่วไปต้องปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การขอใบอนุญาตประกอบกิจการ และการตรวจสอบมาตรฐานโดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.)
เอกสารพื้นฐานที่ต้องใช้
แบบคำขออนุญาตเปิดสถานพยาบาล
สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้ขออนุญาต
แผนที่ตั้งสถานพยาบาลและแบบแปลนสถานที่
ใบประกอบวิชาชีพของบุคลากรทางการแพทย์
กระบวนการตรวจสอบสถานที่เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบความเหมาะสมของพื้นที่ เช่น ความสะอาด ระบบสาธารณูปโภค และความปลอดภัย
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการขออนุญาตเปิดคลินิกได้ที่นี่
ความแตกต่างในการขออนุญาต
1. ขอบเขตของบริการและการจัดการ
คลินิกทั่วไป: ให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทางใดทางหนึ่ง (เช่น คลินิกทันตกรรม คลินิกกายภาพบำบัด)
สหคลินิก: ให้บริการจากหลากหลายสาขาทางการแพทย์ในสถานที่เดียว เช่น อายุรกรรม ศัลยกรรม สูตินรีเวช กุมารเวชกรรม ฯลฯ
ดังนั้น สหคลินิกต้องมีการจัดเตรียมเอกสารเพิ่มเติม เช่น รายละเอียดเกี่ยวกับการแบ่งแผนกและการจัดการทรัพยากรในแต่ละแผนก
2. พื้นที่และโครงสร้างสถานที่
สหคลินิก: ต้องมีพื้นที่ขนาดใหญ่พอสำหรับการจัดแยกแผนกต่าง ๆ และรองรับผู้ป่วยจำนวนมาก รวมถึงพื้นที่เฉพาะสำหรับหัตถการพิเศษ
คลินิกทั่วไป: พื้นที่อาจไม่ต้องกว้างขวางมากนัก เนื่องจากให้บริการเฉพาะทางเพียงสาขาเดียว
3. บุคลากรทางการแพทย์
สหคลินิก: ต้องมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายสาขา พร้อมใบประกอบวิชาชีพของแต่ละคน รวมถึงทีมงานสนับสนุน เช่น พยาบาลและผู้ช่วยแพทย์ในแต่ละแผนก
คลินิกทั่วไป: ใช้บุคลากรเฉพาะทางในสาขานั้น ๆ เพียงไม่กี่คน
4. รายละเอียดเกี่ยวกับเครื่องมือแพทย์
สหคลินิก: ต้องจัดซื้อเครื่องมือแพทย์หลากหลายชนิดตามความต้องการของแต่ละสาขา รวมถึงการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยของเครื่องมือทั้งหมด
คลินิกทั่วไป: จัดหาเครื่องมือที่ใช้เฉพาะในสาขาที่ให้บริการเท่านั้น
5. การตรวจสอบและข้อกำหนดพิเศษ
สหคลินิก: การตรวจสอบมาตรฐานจะละเอียดและครอบคลุมกว่า เช่น การตรวจสอบระบบระบายอากาศ การจัดการขยะติดเชื้อในแต่ละแผนก และการแยกพื้นที่บริการให้เหมาะสม
คลินิกทั่วไป: การตรวจสอบเน้นความเหมาะสมในสาขาที่ให้บริการ เช่น ระบบฆ่าเชื้อในคลินิกทันตกรรม หรือความสะอาดในคลินิกผิวหนัง
ความซับซ้อนในการขออนุญาต
สหคลินิก: มีความซับซ้อนมากกว่า เนื่องจากต้องบริหารจัดการหลายแผนกและเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องกับบริการหลากหลายประเภท รวมถึงการปฏิบัติตามมาตรฐานที่หลากหลาย
คลินิกทั่วไป: กระบวนการขออนุญาตง่ายกว่า เพราะมีข้อกำหนดที่ชัดเจนในสาขาเดียว
สรุป
สหคลินิกเป็นรูปแบบสถานพยาบาลที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านสุขภาพของคนยุคใหม่ ด้วยการให้บริการแบบครบวงจร แม้จะมีความท้าทายในด้านการลงทุนและการบริหารจัดการ แต่หากมีการวางแผนและระบบการทำงานที่ดี สหคลินิกสามารถเป็นธุรกิจที่สร้างความยั่งยืนและสร้างประโยชน์ให้กับสังคมได้อย่างแท้จริง
หากใครที่สนใจหรืออยากเปิดคลินิก สามารถดูหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ‘กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ’
ให้เราเป็นก้าวสำคัญในธุรกิจคลินิกของคุณ
ปรึกษา & สอบถามเพิ่มเติม คลิก : m.me/clinicdeccor
———————————————
Facebook Official: Clinic Deccor
Tel. 093-424-1559 / 063-896-0577

Comments