top of page

รู้จักสหคลินิก คลินิกที่ให้คุณมากกว่าการรักษาแค่ด้านเดียว

อัปเดตเมื่อ 11 มี.ค.

สหคลินิก

ในยุคที่ความต้องการด้านสุขภาพของผู้คนเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การดูแลสุขภาพที่ครบวงจร รวดเร็ว และสะดวกสบายกลายเป็นสิ่งสำคัญ สหคลินิก (Multi-specialty Clinic) จึงเป็นคำตอบที่ตอบโจทย์ผู้ป่วย ด้วยบริการทางการแพทย์หลากหลายในสถานที่เดียว บทความนี้จะพาคุณทำความรู้จักสหคลินิกในทุกมิติ ตั้งแต่จุดเด่น ข้อดี ข้อเสีย ไปจนถึงแนวทางการขออนุญาตเปิดคลินิก




  1. สหคลินิกคืออะไร

สหคลินิก  คือ คลินิกที่จัดให้มีการประกอบวิชาชีพเวชกรรม ทันตกรรม การพยาบาล การผดุงครรภ์ กายภาพบําบัด เทคนิคการแพทย์ การแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนไทยประยุกต์ และการประกอบโรคศิลปะ ตั้งแต่สองลักษณะขึ้นไป ซึ่งดําเนินการโดยผู้ประกอบวิชาชีพหรือผู้ประกอบ โรคศิลปะสาขาใดสาขาหนึ่ง โดยผู้ดําเนินการต้องเป็นบุคคลที่ผู้อนุญาตประกาศกําหนดโดยคําแนะนํา ของคณะกรรมการสถานพยาบาล

สหคลินิกมีลักษณะสำคัญคือ:

  1. เป็นคลินิกที่มีการประกอบวิชาชีพตั้งแต่ 2 ลักษณะขึ้นไป ครอบคลุมทั้ง:

    • เวชกรรม (แพทย์)

    • ทันตกรรม (ทันตแพทย์)

    • การพยาบาลและการผดุงครรภ์

    • กายภาพบำบัด

    • เทคนิคการแพทย์

    • การแพทย์แผนไทยและแผนไทยประยุกต์

    • การประกอบโรคศิลปะในสาขาอื่นๆ

  2. ดำเนินการโดยผู้ประกอบวิชาชีพหรือผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาใดสาขาหนึ่ง

  3. ผู้ดำเนินการต้องเป็นบุคคลที่ได้รับการประกาศกำหนดโดยผู้อนุญาต (ซึ่งปกติคือกระทรวงสาธารณสุข) ตามคำแนะนำของคณะกรรมการสถานพยาบาล

สหคลินิกจึงเป็นรูปแบบสถานพยาบาลที่ถูกออกแบบให้สามารถให้บริการทางการแพทย์ที่หลากหลายในสถานที่เดียวกัน ภายใต้การกำกับดูแลตามมาตรฐานทางกฎหมาย




ข้อดีของการทำสหคลินิก



  1. ข้อดีของการทำสหคลินิก


  1. การรักษาแบบครบวงจร

ผู้ป่วยสามารถเข้ารับการรักษาได้จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขาในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็น อายุรกรรม , กุมารเวชกรรม , ศัลยกรรม , สูตินรีเวช หรือกายภาพบำบัด ช่วยให้วินิจฉัยและรักษาได้ตรงจุดมากขึ้น โดยเฉพาะ ในเคสที่ซับซ้อน

  1. ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางของผู้ป่วย

ลดภาระการเดินทางไปหลายสถานพยาบาล ไม่ต้องเดินทางไปหลายคลินิกหรือโรงพยาบาล สามารถทำการนัดหมายหลายแผนกในที่ครั้งเดียวได้

  1. ประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากร

สามารถใช้พื้นที่ เครื่องมือ และบุคลากรร่วมกัน ช่วยลดต้นทุนในการดำเนินงาน

  1. โอกาสทางธุรกิจ

สามารถขยายฐานลูกค้าและสร้างรายได้เพิ่มขึ้นจากการให้บริการที่หลากหลาย

  1. การแบ่งปันข้อมูลผู้ป่วย

ระบบบันทึกข้อมูลผู้ป่วยสามารถใช้ร่วมกันระหว่างแผนก ช่วยให้การดูแลรักษามีความต่อเนื่อง

  1. ความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ที่ดี

สหคลินิกที่มีบุคลากรหลายสาขาวิชาชีพมักได้รับความเชื่อถือจากผู้รับบริการ

  1. การเรียนรู้และพัฒนาร่วมกันของบุคลากร

 เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างผู้ประกอบวิชาชีพต่างสาขา

  1. ลดความซ้ำซ้อนในการตรวจวินิจฉัย

 การส่งต่อข้อมูลระหว่างแผนกทำได้สะดวก ลดการตรวจซ้ำ

  1. การวินิจฉัยและรักษาแบบองค์รวม

แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์หลายสาขาสามารถปรึกษาหารือและวางแผนการรักษาร่วมกัน

  1. ตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยได้ดีขึ้น

ผู้ป่วยได้รับความสะดวกและความพึงพอใจในการรับบริการแบบครบวงจร


ความท้าทายของการทำสหคลินิก
  1. ข้อเสียและความท้าทายของการทำสหคลินิก


  1. ต้นทุนเริ่มต้นสูง

การจัดตั้งสหคลินิกต้องลงทุนในอุปกรณ์การแพทย์หลากหลายประเภท พื้นที่ใหญ่ขึ้น และเครื่องมือเฉพาะทางหลายชนิด

  1. ความซับซ้อนในการบริหารจัดการ

ต้องประสานงานระหว่างบุคลากรหลายสาขาวิชาชีพ ระบบการนัดหมาย และการบริหารกำลังคน

  1. ความเสี่ยงความขัดแย้งระหว่างวิชาชีพ

แพทย์แต่ละสาขาอาจมีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับแนวทางการรักษา หากไม่มีการประสานงานที่ดี อาจเกิดความขัดแย้งภายในทีมได้

  1. ข้อจำกัดทางกฎหมาย

ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของวิชาชีพหลายสาขา และมาตรฐานการรักษาที่แตกต่างกัน

  1. ความท้าทายในการรักษาคุณภาพบริการที่สม่ำเสมอ

หากไม่มีการกำหนดมาตรฐานที่ชัดเจน คุณภาพของการรักษาอาจไม่สม่ำเสมอ และส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ป่วย

  1. การขาดแคลนบุคลากร

อาจยากในการหาผู้ประกอบวิชาชีพครบทุกสาขาที่ต้องการ โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล

  1. ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสูง

ค่าเช่าสถานที่ขนาดใหญ่ ค่าสาธารณูปโภค เงินเดือนบุคลากรหลายตำแหน่ง

  1. ความเสี่ยงทางธุรกิจสูงขึ้น

 หากประสบปัญหาทางการเงิน จะส่งผลกระทบต่อการให้บริการหลายด้าน

  1. ความยุ่งยากในการบูรณาการระบบข้อมูล

การเชื่อมโยงระบบข้อมูลผู้ป่วยระหว่างแผนกต่างๆ อาจซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูง

  1. การแข่งขันกับโรงพยาบาลและคลินิกเฉพาะทาง

ต้องสร้างจุดเด่นเพื่อดึงดูดผู้ป่วยจากสถานพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน



ขั้นตอนการขออนุญาตเปิดสหคลินิก: แนวทางเพื่อการดำเนินธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย


ขั้นตอนขอเปิดสหคลินิก

การเปิดสหคลินิกเป็นการให้บริการทางการแพทย์ที่ต้องดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมายที่เข้มงวด เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของผู้รับบริการ ผู้ที่ต้องการเปิดสหคลินิกจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการขออนุญาตให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 และกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ดังนี้


1. การเตรียมความพร้อมก่อนยื่นขออนุญาต

1.1 คุณสมบัติของผู้ประกอบกิจการและผู้ดำเนินการ

  • ผู้ประกอบกิจการ: อาจเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลก็ได้ ต้องมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ไม่เคยต้องโทษคดีเกี่ยวกับยาเสพติด ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย ไม่เป็นโรคตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด

  • ผู้ดำเนินการ: ต้องเป็นผู้ประกอบวิชาชีพในสาขาใดสาขาหนึ่งที่ให้บริการในสหคลินิก มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพที่ยังไม่หมดอายุ ต้องไม่เป็นผู้ดำเนินการสถานพยาบาลอื่นอยู่แล้ว และต้องปฏิบัติงานในสหคลินิกไม่น้อยกว่าเวลาที่กำหนด

1.2 การเตรียมสถานที่

  • สถานที่ต้องมีพื้นที่ใช้สอยเหมาะสมกับลักษณะการให้บริการ

  • ต้องมีห้องตรวจโรคแยกเป็นสัดส่วน

  • ระบบการควบคุมการติดเชื้อและการกำจัดขยะติดเชื้อที่ได้มาตรฐาน

  • มีเครื่องมือ อุปกรณ์ทางการแพทย์ตามมาตรฐานวิชาชีพแต่ละสาขา

  • ป้ายชื่อสถานพยาบาลต้องมีลักษณะตามที่กฎหมายกำหนด

1.3 การเตรียมบุคลากร

  • จัดเตรียมผู้ประกอบวิชาชีพให้ครบทุกสาขาที่จะให้บริการ

  • ผู้ประกอบวิชาชีพทุกคนต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพที่ยังไม่หมดอายุ

  • ต้องระบุวันและเวลาปฏิบัติงานของผู้ประกอบวิชาชีพแต่ละคนอย่างชัดเจน


2. ขั้นตอนการขออนุญาต

2.1 การยื่นขออนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล

  1. ดาวน์โหลดแบบคำขออนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล (แบบ ส.พ.1) จากเว็บไซต์กองสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือขอรับที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด

  2. กรอกแบบคำขอพร้อมแนบเอกสารประกอบ:

    • สำเนาบัตรประชาชนของผู้ขออนุญาต

    • สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ขออนุญาต

    • สำเนาใบประกอบวิชาชีพของผู้ดำเนินการ

    • แผนที่แสดงที่ตั้งของสถานพยาบาล

    • แผนผังภายในสถานพยาบาล

    • สำเนาเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ในสถานที่ (โฉนดที่ดิน/สัญญาเช่า)

    • กรณีเป็นนิติบุคคล ให้แนบหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล

  3. ยื่นแบบคำขอและเอกสารที่:

    • กรุงเทพมหานคร: กองสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

    • ต่างจังหวัด: สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด

2.2 การยื่นขออนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาล

  1. กรอกแบบคำขออนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาล (แบบ ส.พ.18)

  2. แนบเอกสารประกอบ:

    • สำเนาบัตรประชาชนของผู้ดำเนินการ

    • สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ดำเนินการ

    • สำเนาใบประกอบวิชาชีพ

    • รูปถ่าย 2.5 x 3 ซม. จำนวน 3 รูป (ถ่ายไม่เกิน 1 ปี)

    • ใบรับรองแพทย์

    • หลักฐานแสดงวุฒิการศึกษา

  3. ยื่นแบบคำขอพร้อมกับการยื่นขออนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล

2.3 การตรวจสอบสถานที่

  1. เจ้าหน้าที่จะนัดหมายเพื่อตรวจสอบสถานที่ตามที่ระบุในคำขอ

  2. คณะกรรมการตรวจมาตรฐานสถานพยาบาลจะตรวจสอบความพร้อมของสถานที่ เครื่องมือ และบุคลากร

  3. หากไม่ผ่านการตรวจสอบ ต้องปรับปรุงแก้ไขตามคำแนะนำของคณะกรรมการ และนัดตรวจซ้ำ

2.4 การชำระค่าธรรมเนียม

  1. เมื่อผ่านการตรวจสอบแล้ว ต้องชำระค่าธรรมเนียมการประกอบกิจการสถานพยาบาลและค่าธรรมเนียมการดำเนินการสถานพยาบาล

  2. อัตราค่าธรรมเนียมเป็นไปตามที่กฎกระทรวงกำหนด ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

2.5 การรับใบอนุญาต

  1. ใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล (แบบ ส.พ.7)

  2. ใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาล (แบบ ส.พ.19)

  3. สมุดทะเบียนสถานพยาบาล

  4. ใบอนุญาตมีอายุ 10 ปี และต้องต่ออายุก่อนใบอนุญาตหมดอายุ

ดูขั้นตอนการขออนุญาตเปิดคลินิกเพิ่มเติมได้ที่นี่

3. การดำเนินการหลังได้รับใบอนุญาต

3.1 การขออนุญาตเปิดให้บริการ

  1. แสดงใบอนุญาตประกอบกิจการและใบอนุญาตให้ดำเนินการในที่เปิดเผยและเห็นได้ชัดเจน

  2. จัดทำป้ายชื่อสถานพยาบาลตามที่กฎหมายกำหนด

  3. จัดทำและแสดงอัตราค่าบริการทางการแพทย์ในที่เปิดเผย

  4. จัดทำป้ายแสดงเวลาเปิด-ปิดการให้บริการ และป้ายแสดงชื่อผู้ประกอบวิชาชีพพร้อมเวลาปฏิบัติงาน

3.2 การปฏิบัติตามกฎหมายอย่างต่อเนื่อง

  1. หากมีการเปลี่ยนแปลงผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องแจ้งให้ผู้อนุญาตทราบภายใน 30 วัน

  2. หากมีการเปลี่ยนแปลงรายการในใบอนุญาต เช่น ชื่อสถานพยาบาล ที่ตั้ง ผู้ดำเนินการ ต้องยื่นขอเปลี่ยนแปลง

  3. จัดทำรายงานประจำปีเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลและส่งให้ผู้อนุญาตภายในเดือนธันวาคมของทุกปี

  4. จัดเก็บเวชระเบียนผู้ป่วยไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปี

3.3 การต่ออายุใบอนุญาต

  1. ยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตก่อนใบอนุญาตสิ้นอายุไม่น้อยกว่า 90 วัน

  2. แนบเอกสารประกอบการต่ออายุตามที่กำหนด

  3. ชำระค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาต


4. กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง

  1. พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

  2. กฎกระทรวงกำหนดชื่อสถานพยาบาล และการแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับชื่อสถานพยาบาล ผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล อัตราค่ารักษาพยาบาล ค่าบริการและสิทธิของผู้ป่วย พ.ศ. 2562

  3. กฎกระทรวงกำหนดวิชาชีพและจำนวนผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล พ.ศ. 2558

  4. กฎกระทรวงกำหนดลักษณะของสถานพยาบาลและลักษณะการให้บริการของสถานพยาบาล พ.ศ. 2558


5. ข้อควรระวังและข้อแนะนำ

  1. การให้บริการนอกขอบเขตใบอนุญาต: ต้องให้บริการเฉพาะในสาขาที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น การให้บริการนอกขอบเขตมีโทษทั้งทางแพ่งและอาญา

  2. การโฆษณา: การโฆษณาสถานพยาบาลต้องได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาต และต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด

  3. การเปลี่ยนแปลงผู้ดำเนินการ: หากผู้ดำเนินการไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เกิน 7 วัน ต้องแจ้งและมอบหมายให้ผู้ประกอบวิชาชีพอื่นในสถานพยาบาลเป็นผู้ดำเนินการแทน

  4. การเลิกกิจการ: หากต้องการเลิกกิจการ ต้องแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้อนุญาตทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 15 วัน และต้องจัดการเวชระเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย

6. บทลงโทษ

การดำเนินการโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล มีบทลงโทษทั้งทางแพ่งและอาญา เช่น:

  1. ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท

  2. ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 60,000 บาท

  3. โฆษณาสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท

การดำเนินการสหคลินิกอย่างถูกต้องตามกฎหมายไม่เพียงช่วยให้ธุรกิจดำเนินไปอย่างราบรื่นเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้รับบริการและสังคมโดยรวม การปฏิบัติตามขั้นตอนและกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดจะช่วยให้สหคลินิกของท่านเป็นสถานพยาบาลที่มีคุณภาพและมาตรฐาน สามารถให้บริการแก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย


การขออนุญาตเปิดสหคลินิก vs. คลินิกทั่วไป: ความเหมือนและความแตกต่าง


ความแตกต่างในการขอใบอนุญาตเปิดคลินิก

แม้การเปิด สหคลินิก (Multi-specialty Clinic) และ คลินิกทั่วไป จะมีขั้นตอนการขออนุญาตที่คล้ายคลึงกันในบางด้าน เนื่องจากทั้งสองประเภทต้องปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับสถานพยาบาล แต่ยังมีความแตกต่างที่สำคัญในแง่ของเอกสาร ข้อกำหนด และกระบวนการตรวจสอบ สรุปความเหมือนและความแตกต่างได้ดังนี้:


ความเหมือนในการขออนุญาต

  1. ข้อกำหนดทางกฎหมายทั้งสหคลินิกและคลินิกทั่วไปต้องปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การขอใบอนุญาตประกอบกิจการ และการตรวจสอบมาตรฐานโดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.)

  2. เอกสารพื้นฐานที่ต้องใช้

    • แบบคำขออนุญาตเปิดสถานพยาบาล

    • สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้ขออนุญาต

    • แผนที่ตั้งสถานพยาบาลและแบบแปลนสถานที่

    • ใบประกอบวิชาชีพของบุคลากรทางการแพทย์

  3. กระบวนการตรวจสอบสถานที่เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบความเหมาะสมของพื้นที่ เช่น ความสะอาด ระบบสาธารณูปโภค และความปลอดภัย

    ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการขออนุญาตเปิดคลินิกได้ที่นี่

ความแตกต่างในการขออนุญาต

1. ขอบเขตของบริการและการจัดการ

  • คลินิกทั่วไป: ให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทางใดทางหนึ่ง (เช่น คลินิกทันตกรรม คลินิกกายภาพบำบัด)

  • สหคลินิก: ให้บริการจากหลากหลายสาขาทางการแพทย์ในสถานที่เดียว เช่น อายุรกรรม ศัลยกรรม สูตินรีเวช กุมารเวชกรรม ฯลฯ

ดังนั้น สหคลินิกต้องมีการจัดเตรียมเอกสารเพิ่มเติม เช่น รายละเอียดเกี่ยวกับการแบ่งแผนกและการจัดการทรัพยากรในแต่ละแผนก

2. พื้นที่และโครงสร้างสถานที่

  • สหคลินิก: ต้องมีพื้นที่ขนาดใหญ่พอสำหรับการจัดแยกแผนกต่าง ๆ และรองรับผู้ป่วยจำนวนมาก รวมถึงพื้นที่เฉพาะสำหรับหัตถการพิเศษ

  • คลินิกทั่วไป: พื้นที่อาจไม่ต้องกว้างขวางมากนัก เนื่องจากให้บริการเฉพาะทางเพียงสาขาเดียว

3. บุคลากรทางการแพทย์

  • สหคลินิก: ต้องมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายสาขา พร้อมใบประกอบวิชาชีพของแต่ละคน รวมถึงทีมงานสนับสนุน เช่น พยาบาลและผู้ช่วยแพทย์ในแต่ละแผนก

  • คลินิกทั่วไป: ใช้บุคลากรเฉพาะทางในสาขานั้น ๆ เพียงไม่กี่คน

4. รายละเอียดเกี่ยวกับเครื่องมือแพทย์

  • สหคลินิก: ต้องจัดซื้อเครื่องมือแพทย์หลากหลายชนิดตามความต้องการของแต่ละสาขา รวมถึงการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยของเครื่องมือทั้งหมด

  • คลินิกทั่วไป: จัดหาเครื่องมือที่ใช้เฉพาะในสาขาที่ให้บริการเท่านั้น

5. การตรวจสอบและข้อกำหนดพิเศษ

  • สหคลินิก: การตรวจสอบมาตรฐานจะละเอียดและครอบคลุมกว่า เช่น การตรวจสอบระบบระบายอากาศ การจัดการขยะติดเชื้อในแต่ละแผนก และการแยกพื้นที่บริการให้เหมาะสม

  • คลินิกทั่วไป: การตรวจสอบเน้นความเหมาะสมในสาขาที่ให้บริการ เช่น ระบบฆ่าเชื้อในคลินิกทันตกรรม หรือความสะอาดในคลินิกผิวหนัง


ความซับซ้อนในการขออนุญาต

  • สหคลินิก: มีความซับซ้อนมากกว่า เนื่องจากต้องบริหารจัดการหลายแผนกและเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องกับบริการหลากหลายประเภท รวมถึงการปฏิบัติตามมาตรฐานที่หลากหลาย

  • คลินิกทั่วไป: กระบวนการขออนุญาตง่ายกว่า เพราะมีข้อกำหนดที่ชัดเจนในสาขาเดียว



สรุป

สหคลินิกเป็นรูปแบบสถานพยาบาลที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านสุขภาพของคนยุคใหม่ ด้วยการให้บริการแบบครบวงจร แม้จะมีความท้าทายในด้านการลงทุนและการบริหารจัดการ แต่หากมีการวางแผนและระบบการทำงานที่ดี สหคลินิกสามารถเป็นธุรกิจที่สร้างความยั่งยืนและสร้างประโยชน์ให้กับสังคมได้อย่างแท้จริง


หากใครที่สนใจหรืออยากเปิดคลินิก สามารถดูหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ‘กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ’



 

ให้เราเป็นก้าวสำคัญในธุรกิจคลินิกของคุณ

ปรึกษา & สอบถามเพิ่มเติม คลิก : m.me/clinicdeccor


———————————————


Facebook Official: Clinic Deccor

Tel. 093-424-1559 / 063-896-0577


QR Code



Comments


093-4241559

Clinic Deccor

Clinicdeccor

@clinicdeccor

บริการทั้งหมด

สินค้า

ติดต่อสอบถาม

CLINICDECCOR

สำรวจพื้นที่ให้คำปรึกษา

ออกแบบคลินิก

ตกแต่งคลินิก

ขอใบอนุญาตคลินิก

ออกแบบโลโก้

ผลิตสื่อโซเชียลมีเดีย

เตียงทรีทเม้นท์
เฟอร์นิเจอร์
เครื่องมือแพทย์ความงาม
โคมไฟคลินิก
อุปกรณตกแต่งคลินิก

แจ้งปัญหา
ปรึกษาปัญหา
ประเมินราคาเบื้องต้น
ขั้นตอนการทำงาน

633/1 ถ.สาธุประดิษฐ์ แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา  กรุงเทพมหานคร 10120

Brand
Logo Clinic Pro
Logo
QR Code

Copyright © 2020 clinicdeccor.com All Rights Reserved

bottom of page