
การวิเคราะห์คู่แข่งทางธุรกิจเป็นขั้นตอนสำคัญก่อนการเปิดคลินิก เพราะช่วยให้คุณสามารถวางแผนกลยุทธ์ให้เหมาะสม ลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ ต่อไปนี้คือหลักๆ ของการทำวิเคราะห์คู่แข่งก่อนเปิดคลินิก
1. ระบุคู่แข่งหลักในการวิเคราะห์คู่แข่งทางธุรกิจ

คู่แข่งตรง (Direct Competitors) คลินิกที่ให้บริการแบบเดียวกันกับคุณ เช่น คลินิกความงาม, คลินิกทันตกรรม, คลินิกรักษาโรคเฉพาะทาง
คู่แข่งทางอ้อม (Indirect Competitors): ธุรกิจที่มีบริการคล้ายกันหรือสามารถทดแทนได้ เช่น โรงพยาบาล, ร้านขายยา, คลินิกออนไลน์ หรือแพลตฟอร์ม Telemedicine
2. ศึกษาข้อมูลของคู่แข่งทางธุรกิจ

ตำแหน่งที่ตั้ง: ดูว่าคู่แข่งตั้งอยู่ที่ไหน และทำเลที่ตั้งมีผลต่อกลุ่มลูกค้าอย่างไร
ขนาดธุรกิจ: จำนวนสาขา ขนาดของคลินิก และทีมแพทย์
บริการที่ให้: เปรียบเทียบบริการของคู่แข่งว่ามีอะไรบ้างที่แตกต่างจากคุณ เช่น เทคโนโลยีที่ใช้ หรือแพ็คเกจที่เสนอให้ลูกค้า
จุดขาย (Unique Selling Point - USP): วิเคราะห์ว่าคู่แข่งมีจุดเด่นอะไร เช่น การใช้เทคโนโลยีใหม่, แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ, บริการที่รวดเร็ว หรือการตลาดที่มีเอกลักษณ์
3. วิเคราะห์กลยุทธ์การตลาดของคู่แข่ง
ช่องทางการตลาด (Marketing Channels)

เว็บไซต์ และ SEO: คู่แข่งมีเว็บไซต์หรือไม่ ติดอันดับการค้นหาใน Google หรือไม่
โซเชียลมีเดีย: การทำโฆษณาบน Facebook, Instagram, TikTok ฯลฯ เป็นอย่างไร
รีวิวและความคิดเห็น: วิเคราะห์รีวิวจากลูกค้าในแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Google Reviews, Wongnai, Pantip
โปรโมชั่น: มีโปรโมชั่นอะไรที่น่าสนใจ เช่น ส่วนลดแพ็คเกจ, บริการเสริมฟรี
การตลาดเชิงอิทธิพล (Influencer Marketing): คู่แข่งใช้ KOL, Influencer หรือไม่
4. วิเคราะห์ราคาและโมเดลธุรกิจ

เปรียบเทียบราคาบริการของคุณกับคู่แข่ง
วิเคราะห์ว่าโมเดลรายได้ของคู่แข่งเป็นแบบใด เช่น
ค่าธรรมเนียมต่อบริการ
การขายคอร์ส/แพ็คเกจ
การสมัครสมาชิกรายเดือน/รายปี
คู่แข่งมีการให้บริการแบบพิเศษ เช่น บริการถึงบ้าน หรือบริการออนไลน์หรือไม่
5. วิเคราะห์ประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience)

การให้บริการ: การจองคิวง่ายหรือไม่ มีระบบออนไลน์รองรับหรือไม่
การตอบกลับลูกค้า: มีการตอบคำถามรวดเร็วหรือไม่
บรรยากาศในคลินิก: ความสะอาด ความสะดวกสบาย การตกแต่ง และความเป็นมืออาชีพของพนักงาน
หลังการขาย: มีการติดตามผลหลังใช้บริการหรือไม่
6. วิเคราะห์จุดอ่อนและจุดแข็งของคู่แข่ง

จุดอ่อน จุดเด่นทางการตลาด
แต่ลคลินิกโดดเด่นด้านใด
วิเคราะห์จุดอ่อนจุดแข็งของแต่ละคลินิกคู่แข่งที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อนำมาเป็นกลยุทธ์และปรับใช้ในธุรกิจของคุณ
7. สรุปและกำหนดกลยุทธ์การแข่งขัน

หลังจากวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดแล้ว คุณสามารถกำหนดกลยุทธ์เพื่อให้คลินิกของคุณแข่งขันได้ เช่น
พัฒนา USP ของคุณ เพื่อให้โดดเด่นกว่าคู่แข่ง
ปรับปรุงการตลาดออนไลน์ เพื่อเข้าถึงลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
ปรับโครงสร้างราคา หรือเพิ่มแพ็คเกจที่ดึงดูดลูกค้า
พัฒนา Customer Experience เพื่อให้ลูกค้าประทับใจและกลับมาใช้บริการอีก
เครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์คู่แข่ง
Google My Business / Google Maps: ดูรีวิวและข้อมูลของคลินิกคู่แข่ง
SimilarWeb / SEMrush / Ahrefs: เช็คการตลาดออนไลน์และ SEO ของคู่แข่ง
Social Listening Tools (Buzzsumo, Brandwatch, Facebook Ad Library): วิเคราะห์ว่าคู่แข่งใช้กลยุทธ์อะไรในโซเชียลมีเดีย
Survey / Focus Group: สำรวจความคิดเห็นของลูกค้าเกี่ยวกับคลินิกคู่แข่ง
ตัวอย่างกรณีศึกษา
กรณีศึกษา: คลินิกความงาม
คู่แข่ง: คลินิก A และ คลินิก B
ข้อได้เปรียบของคู่แข่ง A
มี Influencer รีวิวเยอะ
ทำเลติด BTS เดินทางสะดวก
รีวิวลูกค้าดีมาก
จุดอ่อนของคู่แข่ง A
ราคาสูงกว่าตลาด
คิวแน่น ต้องรอนาน
กลยุทธ์ที่คลินิกของคุณควรใช้
ใช้กลยุทธ์ Influencer Marketing เพื่อเพิ่มการรับรู้
ออกแพ็คเกจราคาย่อมเยากว่า เพื่อดึงดูดลูกค้าที่ต้องการทางเลือกถูกกว่า
ปรับปรุงการจองคิวให้รวดเร็วขึ้น
สรุป
การวิเคราะห์คู่แข่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจคลินิกของคุณสามารถพัฒนาและแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นที่การเข้าใจจุดแข็ง จุดอ่อน และกลยุทธ์ของคู่แข่ง เพื่อนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณเอง การวิเคราะห์ ทางคลินิกเดคคอร์ที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถทำธุรกิจคลินิกได้อย่างสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นโดยที่ไม่ต้องเสียเวลาในการติดต่อประสานงานบริการ ทั้งนี้เพื่อให้ลูกค้าของเราสามารถมีเวลามากขึ้นนในการพัฒนาธุรกิจของตนเอง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
Kommentare