3 วิธีทำการตลาดคลินิกทันตกรรมออนไลน์ให้ได้ผล

พฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนไปอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยกว่า 80% มักเริ่มค้นหาข้อมูลผ่านมือถือก่อนตัดสินใจ แทนการเดินเข้าสอบถามเหมือนในอดีต ซึ่งทำให้การตลาดออนไลน์กลายเป็นเครื่องมือสำคัญของคลินิก

วันนี้ขอพาทุกคนไปอ่าน 3 กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ ที่หลายคลินิกลองแล้วได้ผล และใช้ต่อยอดเพื่อสร้างการเติบโตระยะยาวได้จริง

วิธีที่ 1 : Website + Local SEO ตัวช่วยสำคัญให้คลินิกถูกพบก่อนคู่แข่ง

การมีเว็บไซต์ที่ดีพร้อม Local SEO จะช่วยให้คลินิกถูกเจอก่อนใครเลยเป็นตัวช่วยสำคัญที่ดึงคนในพื้นที่ให้ตัดสินใจจองได้เร็วขึ้นทันที

Local SEO คืออะไร?

คือ การปรับเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับผลการค้นหาในพื้นที่ ยิ่งเวลาคนค้นหาแบบ “จัดฟัน + ชื่อเขต” หรือ “ฟอกฟันขาว + ชื่อถนน” เช่น “จัดฟัน บางนา” , “ถอนฟัน ศรีนครินทร์” Google จะดึงคลินิกที่อยู่ในพื้นที่นั้นขึ้นมาให้ก่อน ทำให้โอกาสถูกพบสูงขึ้นหลายเท่าเมื่อเทียบกับเว็บไซต์ทั่วไป

วิธีทำ Local SEO ให้เหมาะกับคลินิกทันตกรรม

• ทำเว็บไซต์ให้เร็วและรองรับมือถือ คนส่วนใหญ่ค้นหาคลินิกผ่านมือถือ เว็บไซต์จึงต้องโหลดเร็วใช้งานง่าย สิ่งที่ควรคำนึงถึง ได้แก่ ลดขนาดภาพให้เหมาะสม ใช้ฟอนต์อ่านง่าย ออกแบบโครงสร้างเว็บให้ชัดเจน

• ตั้งค่า Title และ H1 ให้มี “ชื่อบริการ + เขตพื้นที่” เช่น “จัดฟัน บางนา” หรือ “ฟอกฟันขาว พระราม 2” ตำแหน่งนี้เป็นข้อมูลสำคัญที่ Google ใช้ในการเข้าใจว่าเว็บไซต์ของคุณให้บริการอะไรและอยู่ที่ไหน

• ติดตั้ง Local Schema Markup คือโค้ดที่ช่วยให้ Google เข้าใจข้อมูลธุรกิจ เช่น ประเภทบริการ ที่อยู่ เวลาเปิดปิด รีวิว ยิ่ง Google เข้าใจข้อมูลมากเท่าไหร่ ระบบจะสามารถจัดอันดับเว็บไซต์ได้แม่นยำมากขึ้น

• ข้อแนะนำ หากคุณไม่ถนัดด้านการสร้างเว็บไซต์ ฉันแนะนำแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย เช่น WordPress , Wix และ Webflow หรือ เลือกใช้บริการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์คลินิกกับ CND ซึ่งเราดูแลทั้งระบบดีไซน์และ SEO ให้ครบในที่เดียว

  
  

KPI ที่ต้องติดตาม (Success Metrics)

• อันดับคำค้น (Keyword Ranking) ควรรักษาอันดับ 1–3 ในพื้นที่สำคัญ เพื่อเพิ่มอัตราการคลิกเข้าสู่เว็บไซต์

• Organic Traffic เป็นตัวชี้วัดว่าผู้ใช้ค้นหาเจอเว็บไซต์ของคุณโดยไม่ต้องจ่ายค่าโฆษณา หากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แปลว่า Local SEO ทำงานได้ดี

วิธีที่ 2 : Google My Business สิ่งแรกที่ลูกค้าเห็นก่อนเข้าเว็บไซต์

GMB เปรียบเสมือน “หน้าร้านออนไลน์” ของคลินิกใน Google และเป็นสิ่งแรกที่ลูกค้าเห็นเมื่อค้นหาคลินิกทันตกรรม

ดังนั้นการดูแล GMB อย่างจริงจังช่วยเพิ่มอัตราการโทรและการนัดหมายได้อย่างมาก

วิธีทำให้ GMB ของคลินิกโดดเด่น

• กรอกข้อมูลใน GMB ให้ครบถ้วน ข้อมูลที่ต้องมี ได้แก่ ชื่อคลินิก หมวดหมู่บริการ ที่อยู่ เบอร์โทร เวลาเปิด–ปิด รายการบริการทั้งหมด และลิงก์เว็บไซต์ ข้อมูลที่ตรงกันช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในสายตาลูกค้าและ Google

• อัปโหลดภาพเป็นประจำ เช่น ภาพภายใน–นอกคลินิก , ภาพห้องทำฟัน , ภาพทีมทันตแพทย์ , ภาพ Before–After จากเคสจริง การอัปเดตภาพสม่ำเสมอช่วยให้โปรไฟล์เคลื่อนไหวและส่งผลดีต่อ SEO บน Google Maps

• ตอบรีวิวทุกอันภายใน 24 ชั่วโมง การตอบรีวิวอย่างสุภาพและเป็นมืออาชีพ ช่วยสร้างความประทับใจและเพิ่มความน่าเชื่อถือ แม้เป็นรีวิวเชิงลบก็ควรตอบเพื่อแสดงความตั้งใจในการพัฒนา

KPI ของ GMB ที่ควรติดตาม (Success Metrics)

• คะแนนเฉลี่ย (Average Rating) คะแนนรีวิวบน Google เป็นองค์ประกอบที่มีผลต่อการตัดสินใจสูงที่สุด ลูกค้าส่วนใหญ่จะมองคะแนนรีวิวก่อนเป็นอันดับแรกเพื่อประเมินความน่าเชื่อถือ คุณภาพบริการ และประสบการณ์ที่ผู้ใช้จริงเคยได้รับ

• Conversion Rate จาก GMB ดูจำนวนการกดโทร , ขอเส้นทาง และ เข้าเว็บไซต์ หากตัวเลขเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แสดงว่าคลินิกมีความน่าเชื่อถือสูงขึ้นในมุมมองของผู้ใช้

วิธีที่ 3 : Social Media ช่องทางสร้างความคุ้นเคยและความไว้วางใจ

จากสถิติปีล่าสุด คนไทยใช้งานโซเชียลมีเดียเฉลี่ย หลายชั่วโมงต่อวัน ทำให้แพลตฟอร์มเหล่านี้กลายเป็นพื้นที่สำคัญสำหรับการสร้างความเชื่อมั่นก่อนลูกค้าตัดสินใจเข้ามารักษา

วิธีใช้โซเชียลแต่ละแพลตฟอร์มให้ได้ผลกับการตลาดคลินิกทันตกรรม

• Facebook (ผู้ใช้งานในไทย: 48–50 ล้านคน ) ให้ความรู้และสื่อสารกับลูกค้าผ่านเนื้อหาที่เหมาะสม เช่น บทความให้ความรู้ , วิธีดูแลสุขภาพฟัน , คลิปแนะนำทีมทันตแพทย์ ช่วยเพิ่มความคุ้นเคยและความน่าเชื่อถือ

• TikTok (ผู้ใช้งานในไทย: 44–46 ล้านคน ) เด่นเรื่องวิดีโอสั้น ช่วยเข้าถึงลูกค้าใหม่ได้รวดเร็วมาก เหมาะกับ ทริปดูแลฟันภายใน 10–20 วินาที , เบื้องหลังการทำงานของคลินิก แพลตฟอร์มนี้ช่วยเข้าถึงกลุ่มลูกค้าวัยทำงานและวัยรุ่นได้เป็นอย่างดี

• Instagram (ผู้ใช้งานในไทย: 19–20 ล้านคน) เน้นภาพสวยงาม เช่น บรรยากาศคลินิก , ภาพBefore/After , Mood & tone ที่ดูสะอาดและเป็นมืออาชีพ ภาพที่ดีช่วยเพิ่มความเชื่อถือได้มากกว่าข้อความหลายบรรทัด

• CTA ต้องชัดเจนในทุกโพสต์ เช่น “คลิกจองคิวผ่าน Line OA” , “โทรปรึกษาเบื้องต้นฟรี” , “ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์” CTA คือสิ่งที่ทำให้ผู้ชมกลายเป็นผู้ใช้บริการจริง

KPI ของ Social Media ที่ควรติดตาม (Success Metrics)

• Engagement Rate : บอกได้ว่าผู้ชมมีส่วนร่วมกับโพสต์มากน้อยแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นการไลก์ คอมเมนต์ แชร์ หรือบันทึกโพสต์ ยิ่งอัตราส่วนนี้สูง ยิ่งแปลว่าคอนเทนต์ตอบโจทย์ตรงใจผู้ติดตาม

• Follower Growth : จำนวนผู้ติดตามใหม่ช่วยประเมินความน่าสนใจและการเติบโตของแบรนด์ในระยะยาว หากมีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แสดงว่าคอนเทนต์ที่โพสต์ตรงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นโดยไม่ต้องซื้อมากเกินไป

สรุป

การตลาดคลินิกทันตกรรมในปีนี้และทุกๆปี ต้องเน้น 3 ส่วนหลัก คือการทำเว็บไซต์และ Local SEO เพื่อให้คลินิกถูกพบก่อนคู่แข่ง การดูแล Google My Business ให้ข้อมูลครบ ภาพคมชัด และรีวิวคุณภาพเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ และการใช้โซเชียลมีเดียสร้างความคุ้นเคยผ่าน Facebook , TikTok และ Instagram พร้อมมี CTA ชัดเจน เมื่อทำทั้งสามส่วนต่อเนื่องจะช่วยเพิ่มการมองเห็น ดึงลูกค้าใหม่และทำให้คลินิกเติบโตได้อย่างยั่งยืน